เลือกซื้อประตูบ้านอย่างไรให้ถูกใจและถูกกับบ้าน น่าจะเป็นหนึ่งในปัญหาของบางครอบครัวที่เพิ่งมีบ้านใหม่ หรือบ้านหลังเดิมที่อยากจะต่อเติม หรือซื้อใหม่เพื่อมาเปลี่ยนแทนประตูบานเก่าที่อยู่กับเรามาเนิ่นนาน จนเริ่มจะผุพัง
การเลือกซื้อประตูสักบานนั้น จะต้องอาศัยความละเอียดและรอบคอบในการพิจารณาด้วย เพราะมีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยตรง โดยจะมีอยู่ 6 สิ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญก่อนเลือกซื้อประตูบ้าน…
1. ตำแหน่งสำหรับติดตั้งประตู
สำรวจพื้นที่รอบบริเวณบ้านก่อนว่า จะติดตั้งประตูตรงจุดไหนและห้องใดบ้าง เพราะแต่ละพื้นที่จะใช้ประตูไม่เหมือนกัน เช่น ต้องการติดตั้งประตูภายนอกบ้าน ควรเลือกใช้เป็นประตูไม้เนื้อแข็งที่มีความทนแดด ทนฝน เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า เป็นต้น
2. เลือกประตูตามลักษณะการใช้งาน
ในแต่ละส่วนของบ้านมีความต้องการแสงสว่างที่ไม่เท่ากัน ซึ่งประตูก็มีผลต่อแสงที่จะเข้ามาในห้อง จึงต้องเลือกประตูตามความเหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน เช่น หากเป็นห้องที่ต้องการความมิดชิด ควรเลือกประตูแบบทึบทั้งหมด หากต้องการให้มีแสงสว่างเข้าถึงบ้าง ควรเลือกประตูแบบมีกระจก หรือถ้าหากต้องการให้ห้องมีอากาศถ่ายเท ควรเลือกใช้ประตูแบบมีบานเกล็ด
3. ขนาดของประตู
ควรเลือกขนาดของประตูให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน หากมีการติดวงกบแล้ว ควรเลือกขนาดประตูให้พอดีกับวงกบ แต่ถ้ายังไม่ได้ติดก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่า ต้องการความกว้าง ความยาว และความสูงเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่รู้จะเลือกขนาดเท่าไหร่ดี เราก็มีขนาดประตูมาตรฐานมาให้ศึกษากัน
– ประตูห้องน้ำ ขนาด 70×200 หรือ 70×180เซนติเมตร
– ประตูห้องนอน และประตูหลังบ้าน ขนาด 80×200 หรือ 90×200 เซนติเมตร
– ประตูบานเดี่ยวหน้าบ้าน หรือประตูทั่วไป ขนาด 90×200หรือ 100×200 เซนติเมตร
4. ลวดลายและรูปแบบของประตู
อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ รสนิยมของผู้ซื้อ รวมไปถึงความเหมาะสมกับสไตล์การตกแต่งบ้าน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว ไม่มีกฎการเลือกซื้อที่ตายตัว
5. คำนวณงบประมาณ
จะได้ประตูคุณภาพดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่เรามีด้วย เหมือนที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า “คุณภาพตามราคา” แต่ก็ต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วยหากจะซื้อประตูราคาแพง ว่าคุณภาพสินค้าและฟังก์ชันของมันเหมาะสมกับราคาที่ต้องจ่ายหรือเปล่า
6. ตรวจเช็คความเรียบร้อยของประตูก่อนออกจากร้าน
ไม่ว่าจะซื้อสินค้าอะไรก็ตาม โดยเฉพาะเวลาไปเลือกซื้อที่หน้าร้านหรือศูนย์ต่าง ๆ ควรตรวจเช็คสภาพสินค้าทุกครั้งว่ามีความเสียหาย ชำรุด หรือตำหนิตรงไหนหรือเปล่า ก่อนที่จะจ่ายเงินหรือออกจากร้าน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาติดต่อขอเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้ยุ่งยากและเสียเวลา เพราะบางร้านก็ไม่ได้มีนโยบายรับเคลมสินค้าเมื่อลูกค้าออกจากร้านไปแล้ว ดังนั้นควรดูให้ดีเสียก่อน
Cr. livinginsider.com
หวังว่าทุกท่านจะสามารถตัดสินใจเลือกซื้อประตูกันได้ง่ายขึ้นนะครับ แต่ไม่ว่าจะเลือกประตูแบบไหน ก็สามารถป้องกันภัยร้ายได้มากขึ้น ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับการเปิด การทุบ ประตู/ หน้าต่าง แบบไร้สายจาก Maxwell เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนในครอบครัวครับ
หากสนใจติดตั้งหรือสั่งซื้ออุปกรณ์ตรวจจับการเปิด การทุบ ประตู/ หน้าต่าง หรืออุปกรณ์ป้องกันภัยอื่น ๆ สามารถติดต่อ Maxwell ได้ที่เบอร์ 085-485-3501 ตลอด 24 ชั่วโมง